ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ ที่ถึงแม้จะไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพมากนัก แต่ก็ทำให้หลายคนหมดความมั่นใจได้ เพราะบริเวณที่เกิดขึ้นมักเป็นจุดที่สามารถสังเกตได้ง่าย ทั้งบริเวณใบหน้า โหนกแก้ม และบริเวณอื่นๆ ดังนั้นมาดูกันว่าฝ้า กระ จุดด่างดำ แตกต่างกันอย่างไร มีความเหมือนและแตกต่างแค่ไหน พร้อมแนะนำวิธีการรักษาเพื่อป้องกันฝ้า กระ จุดด่างดำไม่ให้เกิดซ้ำในอนาคต
ดูเหมือนจะคล้าย แต่จริงๆ แล้วไม่เหมือนกันนะ
ฝ้า กระ และจุดด่างดำนั้นเป็นปัญหาผิวที่มีลักษณะแตกต่างกัน และมีปัจจัยที่ทำให้เกิดไม่เหมือนกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.ฝ้า จะมีลักษณะเป็นรอยปื้นขนาดใหญ่ สีน้ำตาล ม่วง ตลอดจนเทา มีหลายขนาด หลายรูปทรง มักพบบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก คาง มักเกิดขึ้นในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย โดยสาเหตุของการเกิดฝ้ามาจากเซลล์เม็ดสีชั้นใต้ผิวทำงานผิดปกติ ฮอร์โมนที่ไม่เสถียร โดยฝ้าจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่
1.1 ฝ้าแดด คือ ฝ้าที่เกิดจากแสงแดด เนื่องจากมีรังสียูวีเอและยูวีบีที่ทำลายผิวได้ลึกอย่างมาก
1.2 ฝ้าลึก คือ ฝ้าที่เกิดขึ้นในชั้นผิวหนังแท้ จะมีสีอ่อน มองเห็นเป็นสีน้ำตาล เทา หรือม่วงได้ มองเห็นขอบเขตไม่ชัดเจน เป็นฝ้าที่รักษาได้ยากและใช้ระยะเวลายาวเพราะเกิดขึ้นในชั้นผิวหนังแท้
1.3 ฝ้าตื้น คือ ฝ้าที่เกิดในชั้นผิวหนังกำพร้า โดยจะเห็นเป็นขอบเขตชัดเจน มีสีน้ำตาลเข้ม เกิดขึ้นได้ง่ายและใช้ระยะเวลารักษาน้อยกว่าฝ้าลึก แต่คนส่วนมากแล้วมักเจอฝ้าผสม คือ ฝ้าลึกผสมกับฝ้าตื้นที่จะเป็นสีเข้มแต่ขอบจาง
2.กระ คือ จุดสีดำหรือสีน้ำตาลที่มีขอบเขตชัดเจน ขนาดเล็ก มีทั้งแบบตุ่มนูนและเรียบ สาเหตุการเกิดกระคล้ายคลึงกับฝ้า คือ การทำงานของเซลล์เม็ดสีผิดปกติ พบมากในบริเวณใบหน้า มือ หลังแขน โดยกระจะมีด้วยกัน 4 ชนิด ดังนี้
2.1 กระตื้น มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเข้มมักเกิดจุดหลายขนาดเล็กๆ เห็นขอบเขตชัดเจน โดยเกิดขึ้นที่ผิวด้านนอกสามารถรักษาหายได้ง่าย
2.2 กระลึก มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อนจางๆ จนไปถึงเทาหรือม่วง เห็นขอบไม่ชัด เนื่องจากเกิดขึ้นในชั้นผิวแท้จึงเห็นไม่ชัดเจนและใช้ระยะเวลารักษานานกว่ากระตื้น
2.3 กระเนื้อ มีลักษณะเป็นเม็ดสีน้ำตาลเข้ม เป็นตุ่มนูนขึ้นหรือติ่งเล็กๆ มักเกิดเป็นเม็ดขนาดเล็กก่อนและค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น เป็นกระที่จะต้องใช้หัตถการเลเซอร์ในการแก้ไขเท่านั้น และมีโอกาสกลับมาเป็นอีกครั้งได้
2.4 กระแดด มีลักษณะเป็นจุดดวงสีน้ำตาล เกิดขึ้นจากแสงแดด ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตราย แต่ถ้ามีภาวะที่มีกระแดดเกิดขึ้นใหม่ปริมาณมากแบบกะทันหันหรือเป็นกระเนื้อที่มีสีคล้ำมาก จะแยกยากกับมะเร็งผิวหนัง ควรที่จะต้องเข้าปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยเฉพาะ
3.จุดด่างดำ คือ รอยดำคล้ำที่ปรากฏบนผิว เกิดขึ้นจากการอักเสบของผิวหนัง มีลักษณะเป็นจุดหรือเสี้ยวชัดเจน ส่วนมากแล้วจุดด่างดำหรือรอยดำมักเกิดขึ้นจากพฤติกรรมการบีบ แกะ หรือแคะสิว
วิธีการรักษาป้องกันฝ้า กระ จุดด่างดำ
1.ทาครีมกันแดด
เพราะสาเหตุหลักของการเกิดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ มาจากรังสียูวีที่อยู่ในแดด การหลีกเลี่ยงแสงแแดดก็จะช่วยลดโอกาสที่เซลล์เม็ดสีจะทำงานนั่นเอง โดยช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดคือ 10.00-15.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่แดดแรงจัด อีกทั้งควรที่จะสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันแสงแดด ทั้งเสื้อแขนยาว หมวก ร่มกันแดด รวมถึงการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA+++ ขึ้นไปเพื่อป้องกันรังสียูวีเอและยูวีบี ขนาด 2 ข้อนิ้วมือแบบพูนๆ ที่บริเวณใบหน้า สามารถทาซ้ำได้ทุกๆ 2 ชั่วโมงเพื่อให้กันแดดมีประสิทธิภาพ และถึงแม้จะไม่ได้โดนแดดโดยตรงก็ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพราะยังมีรังสียูวีที่มาจากหลอดไฟ หน้าจอสมาร์ทโฟน และแหล่งกำเนิดแสงอื่นๆ ซึ่งใครที่กำลังมองหาครีมกันแดดอยู่ ขอแนะนำ Plantnery Grape Seed Sunscreen Cream SPF50 PA+++ ครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติ 2 in 1 ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด แก้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวหน้าหมองคล้ำ ให้คงความกระจ่างใส
2.ทาสกินแคร์บำรุง
การทาสกินแคร์ที่มีสารสกัดช่วยในการช่วยผลัดเซลล์ผิว พร้อมยับยั้งการทำงานของเซลล์เม็ดสีผิว พร้อมปรับสีผิวให้สม่ำเสมอจะสามารถช่วยลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ โดยการใช้สกินแคร์ทาเป็นประจำนั้นนอกจากจะช่วยรักษาปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้แล้ว ยังช่วยป้องกันฝ้าและกระที่จะเกิดใหม่ได้อีกด้วย และยังเป็นวิธีการรักษาฝ้ากระและจุดด่างดำที่ไม่อันตรายหรือมีผลข้างเคียง และยังให้ผลดีในระยะยาวอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เราควรเลือกสกินแคร์ที่มีความอ่อนโยนกับผิว ที่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย อย่าง Plantnery Grape Seed Anti-Melasma Intense Serum ที่ผสาน 3 พลังจากองุ่น Grape Seed Oil, Grape Seed Extract และ Grape AHAs ช่วยยับยั้งทุกปัญหาของวงจรการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ช่วยหยุดการทำงานของเซลล์เม็ดสี ขัดขวางการส่งต่อของเซลล์เม็ดสีในผิวชั้นบนสุด และกำจัดเม็ดสีชั้นใต้ผิว นอกจากนี้ยังไม่มีแอลกอฮอล์ สารกันเสียพาราเบน สีสังเคราะห์ ซิลิโคนที่ก่อให้เกิดการแพ้และระคายเคืองได้อีกด้วย
3.หัตถการและเลเซอร์
การทำหัตถการและการเลเซอร์เป็นวิธีที่ช่วยกำจัดฝ้า กระ และจุดด่างดำได้เร็วขึ้น เพราะจะมีทั้งการใช้กรดที่มีความเข้มข้นสูงเพื่อเข้าไปผลัดเซลล์ผิว การกรอกผิวเพื่อให้สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอหลุดไป ตลอดจนการทำเลเซอร์ที่จะปล่อยพลังงานแสงเข้าไปทำให้เซลล์เม็ดสีแตกตัว ช่วยลดเลือนฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ แต่ข้อควรระวังคือ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะมีโอกาสที่จะทำให้เกิดปัญหาผิวได้ รวมถึงหลังทำหัตถการแล้ว จำเป็นที่จะต้องทาครีมกันแดดและสกินแคร์เพราะผิวจะบางลงอีกด้วย
จบไปแล้วกับเรื่องของฝ้า กระ และจุดด่างดำ หลายคนคงรู้แล้วแต่ละชนิดมีลักษณะอย่างไร เกิดขึ้นจากปัจจัยอะไรได้บ้าง และวิธีดูแลตัวเองเพื่อป้องกันฝ้า กระ และจุดด่างดำ ซึ่งใครที่สนใจผลิตภัณฑ์ป้องกันฝ้ากระและจุดด่างดำจาก Plantnery สามารถเลือกช้อปได้เลย ตามรายละเอียดด้านล่างนี้
สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ Plantnery
เว็บไซต์: https://plantnery.com/products/
Lazada: https://www.lazada.co.th/shop/plantnery
Shopee: https://shopee.co.th/plantnery