หนึ่งในปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอที่สาวๆ หลายคนกังวลใจ หนีไม่พ้น “ฝ้า” เพราะฝ้ามีลักษณะที่เป็นรอยปื้นๆ ที่ปรากฏบนใบหน้า โดยอาจมีทั้งสีน้ำตาล สีเทา ไปจนถึงม่วงที่เห็นได้ชัดเจน จนทำให้หลายคนรู้สึกเสียความมั่นใจอย่างมาก ลองผิดลองถูกหลายวิธีแก้ฝ้าให้หายขาด ซึ่งบางวิธีใช้แล้วก็เห็นผลในช่วงแรก แต่ทำไปนานๆ เข้าปัญหาฝ้าดันแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้น Plantnery จะขอมาตอบคำถามว่าจะแก้ฝ้าให้หายขาดทำได้หรือไม่ ปัจจัยในการรักษาฝ้าให้ดีขึ้น วิธีรักษาฝ้าที่ถูกต้องและเหมาะสมกัน
ฝ้า ถือเป็นปัญหาเพราะสีผิวไม่สม่ำเสมอที่รักษาได้ยาก เกิดขึ้นจากหลากหลายปัจจัย โดยเฉพาะปัจจัยทางพันธุกรรม ที่ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีการรักษาฝ้าให้หายขาด แต่มีเพียงแค่การทำให้รอยปื้นจากฝ้าดูจางลงเท่านั้นและเป็นวิธีที่จะต้องดูแลในระยะยาว เพราะมีโอกาสที่รอยปื้นจากฝ้าจะกลับมาเข้มขึ้นหรือกระจายตัวได้ อีกทั้งยังมีปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้ฝ้ากลับมาเข้มขึ้นได้ เช่น
ฝ้า เกิดขึ้นจาก “เมลานิน” เซลล์เม็ดสีในผิวหนัง ทำงานผิดปกติ มีการเพิ่มจำนวนของเอนไซม์ไทโรสิเนส (Tyrosinese) จนได้เป็นยูเมลานิน (Eumelanin) ที่เป็นเมลานินสีน้ำตาลและดำ จนทำให้เกิดเป็นรอยปื้นได้ทั้งบนชั้นผิวหนังกำพร้าและหนังแท้ ดังนั้นการรักษาฝ้านั้นสามารถทำได้โดยการผลัดเซลล์ผิวโดยใช้กรดผลัดเซลล์ผิวและเม็ดสีที่ไม่สม่ำเสมอออก ช่วยปรับให้สีผิวแลดูกระจ่างใสขึ้น การฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดดและเสริมประสิทธิภาพการป้องกันแสงแดด ตลอดจนการเข้ายับยั้งการทำกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานินอย่างการต้านการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส
หลังจากที่ทราบแล้วว่าจะต้องรักษาฝ้าอย่างไรให้จางลงและดีขึ้น มาดูวิธีการรักษาฝ้ากันว่าสามารถเลือกทำวิธีการไหนได้บ้าง
การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ คือ การใช้พลังงานแสงยิงเข้าไปที่ชั้นผิวหนังที่มีปัญหาทำให้เซลล์เม็ดสีแตกตัว ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ๆ ข้อดีของการยิงเลเซอร์คือสามารถสังเกตความแตกต่างได้ตั้งแต่ครั้งแรกว่าฝ้าดูจางลง แต่การทำเลเซอร์จำเป็นต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะต้องประเมินว่าควรใช้เลเซอร์ชนิดอะไร ขนาดพลังงานที่ใช้ในการยิง ควรทำกี่ครั้ง เพราะการยิงเลเซอร์นั้นอาจทำให้ผิวบางลงหรือผิวไหม้ได้ อีกทั้งยังต้องหมั่นทาครีมกันแดดและหลีกเลี่ยงการผลัดเซลล์ผิวหลังทำเลเซอร์ด้วย
สกินแคร์ในกลุ่มไวท์เทนนิ่งจะมีส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว สามารถช่วยยับยั้งการทำงานของเซลล์เม็ดสี รวมถึงต้านการเกิดสารอนุมูลอิสระในร่างกาย อย่าง Plantnery Grape Seed Anti-Melasma Intense Serum ที่ผสาน 3 พลังจากองุ่น Grape Seed Oil, Grape Seed Extract และ Grape AHAs ช่วยยับยั้งการผลิตเซลล์เม็ดสี กำจัดเม็ดสีที่อยู่ใต้ผิว ผลัดเซลล์ผิวที่ไม่สม่ำเสมอพร้อมเผยผิวใหม่ และส่วนผสมที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระปกป้องผิวจากแสงแดด หรือ Plantnery Bakuchiol A Melasma Serum in Cream เนื้อครีมที่แตกตัวเป็นเซรั่ม ด้วยสารสกัด Bakuchiol (บากูชิล) เรตินอลจากธรรมชาติ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและต้านอักเสบของผิวหนัง ลดเลือนความหมองคล้ำ ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน พร้อมลดการเกิดสิวใหม่
การทาครีมกันแดดเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยป้องกันปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ ซึ่งวิธีการทากันแดดที่ถูกต้องและได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด คือ การเลือกครีมกันแแดดที่มีค่า SPF 30 และ PA++++ ขึ้นไปและหากเป็นกิจกรรมกลางแจ้งควรเลือกกันแดดที่กันน้ำได้ ทาก่อนออกแดดประมาณ 20 นาที โดยใช้ปริมาณเท่าเหรียญ 10 บาทหรือ 2 ข้อนิ้วมือแบบพูนๆ ที่บริเวณใบหน้า ทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง รวมถึงหลีกเลี่ยงการออกแดดในช่วง 10 โมงถึง 4 โมงเย็น สามารถช่วยป้องกันฝ้าและไม่ทำให้ปัญหาฝ้าเดิมแย่ลง สำหรับใครที่มองหาครีมกันแดดอยู่ ขอแนะนำ Plantnery Grape Seed Sunscreen Cream SPF50 PA+++ เหมาะกับผู้มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ตลอดจนผิวแพ้ง่าย เพราะปราศจากน้ำหอม พาราเบน สีสังเคราะห์
สุดท้ายนี้ หลายคนคงได้คำตอบแล้วว่า ฝ้าไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่สามารถที่จะรักษาให้ดีขึ้นได้ ซึ่งใครที่มองหา Pantnery ผลิตภัณฑ์ออแกนิกที่มาจากสารสกัดธรรมชาติและมีงานวิจัยรับรองว่าใช้แล้วเห็นผลและปลอดภัย สามารถสั่งซื้อได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้
สนใจสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ Plantnery
เว็บไซต์: https://plantnery.com/products/
Lazada: https://www.lazada.co.th/shop/plantnery
Shopee: https://shopee.co.th/plantnery
แพลนท์เนอรี่ ใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ตรวจสอบและทำความเข้าใจ นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว หากคุณไม่ปฏิเสธและดำเนินการต่อโดยการคลิกปุ่ม
